15 ขั้นตอนการเริ่มต้นและเตรียมตัวแต่งงาน ขจัดความวุ่นวายด้วยสเต็ปเตรียมงานแต่งงานขั้นเทพ...เรียบเรียงข้อมูลโดย BirdEyeView Wedding Studio

การเตรียมงานแต่งงานนั้น ใคร ๆ ก็รู้ว่ายุ่งวุ่นวายมากที่สุด เพราะมีหลายเรื่องต้องจัดเตรียม ทั้งสถานที่ ชุดแต่งงาน ของชำร่วย การ์ดแต่งงาน ฯลฯ ถ้าขาดการวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพแล้วจะก่อให้เกิดปัญหา ความวุ่นวายตามมาเป็นแน่ 

ดังนั้นจึงนำขั้นตอนการเตรียมงานแต่งงานขั้นเทพจากเว็บไซต์ kapook และกระทู้จาก wsq โดยเรียบเรียงแก้ไขให้เข้ากับงานแต่งงานในปัจจุบันมาฝากคู่รักที่กำลังเตรียมตัวจูงมือเข้าพิธีแต่งงาน ไปดูกันเลย

 15ขั้นตอน คำแนะนำ"เริ่มต้นยังไงดี กับคนที่กำลังจะแต่งงาน"  

ก่อนอื่นเลยทำเป็นโฟลเดอร์แยกมาไว้ในคอมพิวเตอร์ ชื่อโฟลเดอร์ว่า My Wedding day แล้วข้างในมีโฟลเดอร์ย่อยเอาไว้อีก เช่นรูปแบบธีมงาน ชุดแต่งงานและทรงผม รูปพรีเวดดิ้ง ขันหมาก แหวน รูปแบบการ์ด ของชำร่วย อื่นๆ

โดยพวกรูปนั้นก็คือรูปจากงานคนอื่นที่ถูกใจ หรืออยากได้บ้าง หรือไม่ก็เข้า google เสิร์จหาให้มากที่สุด หรือเข้าไปในเวปไซต์เกี่ยวกับงานแต่งงาน แล้วดูรีวิวงานคนอื่นๆ พออันไหนที่เราถูกใจเราก็เซฟรูปแยกหมวดหมู่ไว้เลย แล้วทีนี้พอเราจะทำการคุยกับโรงแรม ร้านสตูดิโอ ร้านขายการ์ด ร้านชุดแต่งงาน ร้านขายแหวน ช่างแต่งหน้าทำผม "เราก็ปรินท์รูปที่เราชอบที่เซฟไว้ อาให้เค้าดูแบบที่เราต้องการ มันจะได้ง่ายในการทำให้เค้าเห็นภาพในแบบที่เราต้องการ ที่เราชอบเป็นประมาณไหน จะได้จัดสโคปของงานให้แคบลงไม่บานปลายงบด้วย"

แล้วถ้าเราต้องการปรับเปลี่ยนตรงไหนก็เขียนกำกับลงไป ทำไว้2ชุด ให้ทางร้าน หรือโรงแรม1ชุด แล้วเราก็เก็บไว้เอง1ชุด จะได้เข้าใจและเลือกตรงกัน นอกนั้นก็เป็นเรื่องของเช็คลิสต์ต่างๆ ลองมาเข้าเรื่องแบบง่ายๆก่อนเลยค่ะ อย่างแรกเลย หลังจากได้ฤกษ์แล้ว 

1.คุยกับว่าที่เจ้าบ่าวและครอบครัวทั้งสองฝ่ายว่าต้องการจะจัดงานแบบไหน
ค็อกเทล      โต๊ะจีน      บุฟเฟ่ต์     
งานเช้า งานเย็น จัดแยกวัน แยกสถานที่หรือไม่

รวมถึงค่าใช้จ่ายด้วยว่า ใครจะเป็นคนรับผิดชอบส่วนไหน ตรงนี้เอาให้เคลียร์ จะใช้บริการของ wedding planner หรือไม่ ถ้าจะใช้ก็เลือกที่เราชอบ แต่ละเจ้าก็มีความแตกต่าง และเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

2.คำนวณจำนวนของแขกที่จะมาร่วมงานแต่งงาน
วิธีคำนวณที่เค้าใช้กันคลิ้กดูได้ที่..ลิ้งค์นี้

3.กำหนดงบประมาณจัดงานแต่งงานให้แน่นอน
อันนี้ค่อนข้างสำคัญมากเหมือนกัน เพราะว่าจะได้ช่วยตัดตัวเลือกต่างๆที่เกินงบออกไป รวมถึงไม่มีปัญหากันเรื่องเงินๆทองกันภายหน้าด้วย

4.สถานที่จัดงาน พอได้สามข้อด้านบนแล้ว ทีนี้อะไรก็ง่ายขึ้น เพราะมันแคบลง ทั้งเรื่องสถานที่ รูปแบบงาน และส่วนอื่นๆ 

สำหรับสถานที่ ให้ใช้วิธีคุยกันว่าอยากได้แบบไหน ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก อาหารอร่อย โรงแรมสวย เก่าแก่อยู่มานานหรือเริดหรู มันก็จะค่อยๆแคบลงมาเรื่อยๆ อย่างของผู้เขียนเลือกโรงแรมเพราะอาหารอร่อย ห้องบอลรูมสวย เดินทางสะดวก ที่สำคัญเซลส์ของโรงแรมน่ารักมากเป็นกันเอง อันไหนดีไม่ดี คุ้มไม่คุ้ม เค้าจะบอกกับเราอย่างจริงใจ อีกอย่างคืออยากแนะนำว่าถ้ามีเวลาแล้วเจอโรงแรมไหนจัด wedding fair พอดีก็อยากให้ไป เราจะได้ทั้งรูปแบบการจัดงาน การจัดดอกไม้ ได้ชิมอาหาร รวมถึงได้โปรโมชั่น ลดแลกแจกแถมตามแต่ที่โรงแรมแต่ละที่จะมี 

สำหรับคนที่จะไปงาน Wedding Fair ตามศูนย์ประชุมสิริกิตอะไรแบบนี้ อยากให้ใจแข็ง และตั้งเป้ากันไว้ในใจเลย ว่าเรามาเพื่ออะไร เพราะส่วนมากไปไม่ค่อยได้อะไรมาก แถมจะเสียด้วย พวกบู๊ทถ่ายรูปพรีเวดดิ้งส่วนหนึ่ง ชอบมาลากเข้าไป แล้วก็บังคับให้จ่ายมัดจำ พอได้เงินก็หายหัวหรือดูแลไม่ดีเลย

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรซักทีเดียว ไปได้แต่ต้องใจแข็งพอควร ให้รู้ว่าไปเพื่อเก็บข้อมูล และดูร้านต่างๆให้ครบเสียก่อน เรื่องสตูดิโอถ่ายภาพ เดี่ยวนี้มีแบบถ่ายแล้วได้ภาพทั้งหมดเยอะ ไม่ต้องซื้อภาพเพิ่มให้เสียเงินและเสียความรู้สึกด้วย

(คำแนะนำพรีเวดดิ้ง..อ่านต่อ)

5.หลังจากlist รายชื่อโรงแรมที่ถูกใจได้แล้ว โทรไปถามให้เร็วที่สุด
โทรไปแจ้งวันที่จะจัดเพื่อถามว่าเราต้องเป็น waiting listหรือไม่ รวมถึงแจ้งจำนวนคน แล้วขอให้เค้าเมล์แพคเกจราคา ของที่โรงแรมจะให้ รวมถึงเมนูของแต่ละที่มาให้ได้มากที่สุด เก็บใส่โฟลเดอร์ไว้เปรียบเทียบจากนั้นรีบนัดเข้าไปดูสถานที่จริง ถ่ายรูปเก็บไว้แล้วก็เปรียบเทียบแต่ละที่ พอได้ที่ที่ถูกใจแล้วก็รีบวางเงินมัดจำเลย

6.พอได้โรงแรมก็สบายไปเปราะใหญ่ ทีนี้ก็เตรียมหาช่างภาพนิ่ง+วีดีโอวันงานแต่งงานได้เลย
สำหรับเรื่องของภาพนิ่ง วีดีโอ รวมถึงสตูดิโอถ่ายภาพนั้น อยากอยากแนะนำ ก่อนอื่นบ่าว-สาว ต้องจับทางที่อยากได้มากที่สุดว่าชอบแนวไหน แต่ละสตูฯจะไม่เหมือนกัน ผลงานก็จะมีความแตกต่างหรือเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเช่น บางคนอาจจะชอบแบบถ่ายแฟชั่น เซ็กซี่ หรือบางคนอาจชอบแบบโรแมนติก เรียบๆ คลาสสิค ดูได้นานๆ วินเทจนิดๆ หรือแบบเรโทร อินเทรนด์ไปเลย ก็เลือกเอาตามใจชอบ นั่งดูกันจนตาแฉะเลยทีเดียว

จากนั้นเมื่อได้ร้านที่ถูกใจแล้ว ทั้งเรื่องราคา และผลงาน ก็โทรถามคิว+นัดจองให้เรียบร้อย อย่าลืมแจ้งด้วยว่าอยากถ่ายที่ไหน หรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากสตูดิโอก็ได้ว่าชอบแนวประมาณนี้ๆควรจะถ่ายที่ไหน กี่ชุด อะไรแบบนี้ เมื่อตกลงได้แล้ว อย่าลืมโทรไปจองสถานที่ด้วย บางที่ก็ต้องเสียเงินก็ว่ากันไปตามระเบียบ รวมถึงแจ้งทางสตูดิโอด้วยว่าอยากได้ทรงผม แต่งหน้าประมาณไหน ต่อผม ทำสีอะไรมาหรือไม่ ทางสตูจะได้ทำการบ้านและแจ้งช่างแต่งหน้าทำผมให้

(แพคเกจถ่ายรูปและวิดีโองานแต่งงาน..อ่านต่อ)

7.หาช่างแต่งหน้าทำผม
ถ้าได้ช่างและจองเงินมัดจำเรียบร้อยแล้ว ควรหาเวลาเมล์ หรือโทรคุยแจ้งรายละเอียดของงานค่ะ เช่น จัดที่ไหน เวลาไหน จะเริ่มแต่งหน้ากี่โมง (รอบเช้ากี่โมง, รอบเย็นกี่โมง) และแต่งที่ไหน ส่งรูปของตัวเองให้ช่างดู ส่งรูปแบบทรงผม และสีของโทนการแต่งหน้าที่เราอยากได้ เพื่อช่างจะได้ทำการบ้าน รวมถึงให้คำแนะนำว่าเหมาะกับรูปหน้าเราหรือไม่ ส่งรูปชุด หรือแบบชุดที่เราจะใส่ เพื่อที่ช่างจะได้แนะนำ ว่าเหมาะกับชุด หรือธีมงานหรือไม่ แจ้งช่างเกี่ยวกับปัญหา และรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น เป็นคนผมบาง หรือต่อผมมา ช่างจะได้เตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติมมา เช่นแฮร์พีช ขอคำแนะนำเพิ่มเติม เช่น ควรทำสี ก่อนวันงาน นานแค่ไหน ถ้าทำสี ควรจะแจ้งช่างว่าใช้สีอะไร เพื่อช่างจะได้เตรียมแฮร์พีชมาถูกสี ไม่หลอกกับสีผมจริง

8.หาร้านชุดแต่งงาน
แนะนำว่าให้รีบหาแนวที่ชอบและรีบไปลองดูหลายๆร้าน ถ่ายรูปมาให้ครบทุกชุด ไม่ต้องคิดมากหรือเกรงใจเจ้าของร้านจนยอมจ่ายมัดจำค่าชุด โดยที่เรายังไม่ถูกใจจริงๆก่อน เรามีสิทธิเลือกร้านและลองชุด อยากบอกว่าให้ลองหลายๆแบบ อย่าติดกับแบบที่เราชอบอย่างเดียว เพราะบางทีแบบที่เราชอบนั้น จริงๆเราอาจจะใส่ออกมาไม่สวย ไม่เหมาะก็ได้ ถ้าได้ร้านและชุดที่ถูกใจแล้ว แนะนำอีกอย่าง คืออย่าคิดมาก อย่าเปิดดูรูปชุดคนนู้นคนนี้อีก ว่าที่เจ้าสาวเกือบทุกคน พอจองชุดแต่งงานแล้วกลับมาบ้าน จะเกิดอาการวิตกจริตขึ้นมาทันที คือแบบว่าเครียดว่าทำไมชุดนี้คนนั้นใส่สวย ทำไมชุดเราดูธรรมดา ทำไมราคาต่างกันจังอย่างนู้นอย่างนี้ เอาเป็นว่า ให้เรามั่นใจว่า ชุดไหน "เราใส่ออกมาแล้วเหมาะ ดูดี สวย มั่นใจ" นั่นแหละใช่เลย แล้วไม่ต้องเครียดอีก ยังไงเจ้าสาวก็ต้องสวยที่สุดในวันของเราอยู่แล้ว

(ชุดแต่งงานสวยหรูดูแพงแต่ราคาไม่แรงเวอร์ต้องร้านนี้..อ่านต่อ)

9.Presentation 
เสิร์จหาเลยค่ะ ว่าอยากได้แนวไหน จะเป็นสไลด์ธรรมดา(ทำเองได้ ใช้โปรแกรม Proshow gold) หรือแบบซีนีมาโตกราฟฟี่(หนังสั้น) หรือแบบเอนิเมชั่น ถ้าได้แล้ว ก็รีบโทรไปถามราคา, แจ้งรายละเอียดงาน+จองเลย เพราะพรีเซนเทชั่นต้องให้เวลาเค้าทำอย่างน้อย 2เดือน 

10.ต่อไปสั่งพิมพ์การ์ด และของชำร่วย
ร้านการ์ดอันนี้ออกจะวุ่นวายหน่อย คือมันมีหลายราคา และหลายเกรดจัด เอาเป็นว่า กำหนดราคาก่อน แล้วก็ตกลงกันว่าจะเอาแบบสำเร็จรูป หรือออกแบบเอง หรือสั่งออกแบบเป็นการ์ดออเดอร์พิเศษ ราคามีตั้งแต่ใบละ6บาท-100อัพ ขึ้นอยู่กับรูปแบบของงาน ความยาก รูปแบบการ์ด ตัวปั๊ม หรือสีพิเศษ รวมถึงจำนวนด้วย ไปเดินแถวสำเพ็ง พาหุรัด หรือถ้าอยากเอาเป็นการ์ดสำเร็จรูปถูกๆ งานโอเคเลย เน่แนะนำไปจตุจักรเลย ช่วงโครงการ17 เดินไปเลยมีเยอะมาก

สำหรับการ์ด แนะนำให้แจกก่อนวันงาน 2-4สัปดาห์ หรือไม่เกิน2เดือน เพราะถ้าแจกเร็วไป แขกบางท่านอาจจะลืม แต่ถ้าแจกช้าไปเช่นแจกก่อนแค่1อาทิตย์ ก็จะกระชั้นชิดเกินไป เพราะไม่มีเวลาให้แขกได้จัดเตรียมคิวเวลาส่วนตัว รวมถึงหาเสื้อผ้า และของขวัญสำหรับไปงานเราด้วย สำหรับของชำร่วยก็จะแยกเป็น สำหรับงานเช้า และของชำร่วยงานเย็น อันนี้ก็มีให้เลือกมากมายแล้วแต่จะชอบ ตามร้านการ์ดอีกเช่นกัน หรือจะลองเป็นสมุดโน๊ตจากมูลนิธิเด็กก็ได้ คือของชำร่วยพวกนี้นอกจากจะน่ารักใช้งานได้จริงแล้ว เรายังได้ร่วมทำบุญกันด้วย

11. เดินไปแถวจตุจักรแล้ว หรือสำเพ็งทั้งทีแล้ว ถ้าต้องใช้ของร้บไหว้ ก็หาซื้อได้เลย ไม่ว่าจะเป็นหมอนใบชา ผ้าคลุมไหล่ เน็คไทด์ ผ้าขนหนู ชุดเทียนเครื่องหอมอโรม่าต่างๆ หรือชุดถ้วยชามเบญจรงค์ ก็หาๆดูได้เลย

12. สั่งพานขันหมาก อันนี้แล้วแต่ว่าจะสั่งแบบสำเร็จรูป ทำเอง หรือว่าจะซื้ออะไรแบบไหน ลองคุยกับผู้ใหญ่ดู

13. สั่งทำแหวนแต่งงาน

14. สั่งเหล้า ไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอลต่างๆ 

15.ที่เหลือก็แค่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมตามเช็คลิสต์ หรือที่จะคิดออก เช่น หาพิธีกร นัดคุยกันเรื่องสคริปก่อนวันงาน ซื้อเครื่องประดับ รองเท้า ชุดชั้นใน ของตกแต่งโต๊ะลงทะเบียน(ถ้าอยากได้อะไรเพิ่ม) และเตรียมเข้าคอร์สเจ้าสาว เช่นขัดผิว ขูดหินปูน ทำสีผม และทำเล็บก่อนวันงานสัก 1 อาทิตย์

•    •    •

เรียบง่ายและสมบูรณ์แบบ 
ความลงตัวของความทรงจำที่งดงามผ่านภาพถ่ายที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณในรูปแบบที่เรียบง่าย สวยงาม และสมบูรณ์แบบด้วยรอยยิ้มแห่งความประทับใจที่น่าจดจำ อบอวลไปด้วยความรักของคุณและอิ่มเอมกับความสุขรายรอบของครอบครัวที่ครบถ้วนในงานแต่งงานทั้งหมดของคุณด้วย BIRDEYEVIEW..อ่านต่อ

LOVE CONCERTO
unconditional love ความรักที่ปราศจากเงื่อนไข

ร้านชุดแต่งงานที่เข้าใจผู้หญิงที่เตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงานโดยไม่มีเงื่อนไขใดแอบแฝง ลองชุดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายก่อนเจอชุดที่ใช่สำหรับคุณ พร้อมด้วยแพคเกจชุดแต่งงานราคาเดียวเลือกชุดได้ทั้งร้านโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในราคาสุดพิเศษ สบายใจได้อีกขั้นด้วยการเลือกผ่อน 0%10เดือน..อ่านต่อ

รวมกระทู้เกี่ยวกับงานแต่งงานน่าสนใจในเว็บ Pantip.com ที่ผมรวบรวมเอาไว้สำหรับผู้ที่กำลังจะแต่งงานโดยเฉพาะ..อ่านต่อ

"คุยเฟื่องเรื่องงาน" รายการใน Youtube ที่รวมผู้เชี่ยวชาญในด้านงานแต่งงานจากทุกส่วนมาร่วมพูดคุยกันแบบเจาะลึกในหัวข้อต่างๆ..ชมรายการ

Using Format